Thursday, September 24, 2015

Vredefort Crater หลุมอุกกาบาตที่ใหญ่ที่สุดในโลก กินพื้นที่กว่า 300 กม. !!



ภาพจาก NASA
 
          นับตั้งแต่ระบบสุริยะได้ถือกำเนิดมายาวนานกว่า 4,500 ล้านปี โลกรวมถึงดาวเคราะห์ทุกดวงในระบบสุริยะก็มีวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง และตลอดระยะเวลาอันยาวนานนี้ ก็มีวัตถุอวกาศแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมเยียนโลกนับไม่ถ้วน วัตถุอวกาศหลายชิ้นเพียงแค่เคลื่อนตัวเฉียดโลกไป ขณะที่อีกหลายชิ้นก็พุ่งชนพื้นผิวโลก จนฝากรอยแผลเอาไว้บนโลกมากมาย ในรูปแบบของ “หลุมอุกกาบาต” 

                                                                  ภาพจาก Google Earth
 
            แต่เคยสงสัยกันไหมว่า เมื่อที่ผ่านมามีอุกกาบาตน้อยใหญ่มากมายตกมาบนพื้นโลก แล้วหลุมอุกกาบาตที่ใหญ่ที่สุดจะมีขนาดใหญ่เพียงใดหนอ วันนี้กระปุกดอทคอมขออาสาไขข้อข้องใจนี้ บอกเล่าเรื่องราวของหลุมอุกกาบาตวเรเดฟอร์ต (Vredefort Crater) หลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของหลุมที่กว้างใหญ่สุด ๆ กว่า 300 กิโลเมตร !!!! ถูกต้องแล้วค่ะอ่านไม่ผิดแน่ ๆ หลุมอุกกาบาตที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีขนาดถึง 300 กิโลเมตร ครอบคลุมเนื้อที่หลายเมืองเลยล่ะ ว่าแล้วก็มาติดตามเรื่องราวน่าทึ่งนี้พร้อม ๆ กันดีกว่า

หลุมอุกกาบาตวเรเดฟอร์ต (Vredefort Crater) คืออะไร ?

            นัก ธรณีวิทยายืนยันว่า หลุมอุกกาบาตวเรเดฟอร์ต เป็นหลุมอุกกาบาตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มันอยู่ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ใกล้ ๆ กับเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่งที่ชื่อว่าเมืองวเรเดฟอร์ต และนั่นคือที่มาของชื่อหลุมอุกกาบาตแห่งนี้นั่นเอง

มันเกิดขึ้นได้อย่างไรนะ ?

            หลุม อุกกาบาตแห่งนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 300 กิโลเมตร เกิดขึ้นหลังถูกอุกกาบาตซึ่งคาดว่ามีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่ต่ำกว่า 5-10 กิโลเมตรพุ่งชนพื้นโลกเมื่อราว 2.02 พันล้านปีก่อน ซึ่งอยู่ในช่วงยุคโพรเทอโรโซอิก ก่อนที่สิ่งมีชีวิตจำพวกสาหร่ายจะถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกด้วยซ้ำ

            คาด การณ์กันว่าขนาดจริง ๆ ของเส้นผ่านศูนย์กลางของหลุมแห่งนี้เมื่อครั้งที่มันเพิ่งตกลงมาบนโลกใหม่ ๆ น่าจะอยู่ที่ราว 300 กิโลเมตร แต่มีการทับถมของหน้าดินและมีการผุกร่อนไปบ้าง ขนาดหลุมจึงคงเหลือราว 250 กิโลเมตรในปัจจุบัน

            ส่วนใจกลางหลุมอุกกาบาตมี ลักษณะคล้ายปากปล่องภูเขาไฟ มีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 70 กิโลเมตร สถานที่แห่งนี้ถูกเรียกว่า วเรเดฟอร์ต โดม และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกด้วย

ภาพจาก Wikipedia 

            การปะทะของอุกกาบาตกับพื้นโลก นอกจากจะทำให้เกิดหลุมยักษ์แล้ว ความร้อนของมันยังหลอมละลายแผ่นเปลือกโลกจนเหลว และบังเกิดบ่อน้ำลาวาบนผิวโลกอีกด้วย



ภาพจาก Google Earth
ภาพจากดาวเทียมแสดงให้เห็นระยะเส้นผ่านศูนย์กลางของหลุมอุกกาบาตวเรเดฟอร์ต วงกลมสีแดงคือขนาดของหลุมทั้งหมดในอดีต


            หลังจากนั้นบ่อลาวาได้ระเหยหายไปหมด หลงเหลือไว้เพียงแร่ธาตุ หินกรวด และหินแก้วที่มีชื่อว่า  หินซูสโดทาซีไลต์ นอกจากนี้ยังมีการค้นพบพลอยเพทาย ที่ถือกำเนิดในใจกลางหินแม็กม่า ขณะที่ทีมสำรวจกำลังเข้าศึกษาพื้นที่ ด้วยแร่ธาตุที่เหล่านักธรณีวิทยาเหล่านี้ค้นพบ ทำให้พวกเขาฟันธงว่า สถานที่แห่งนี้เคยเป็นปล่องภูเขาไฟมาก่อนในอดีต

                                                     ภาพจาก Earth Impact Database

            แต่แล้วเมื่อช่วงกลางทศวรรษที่ 1990 หลักฐานทางธรณีวิทยาหลาย ๆ ชิ้นทำให้เหล่านักธรณีวิทยาต้องคิดทบทวนใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีการค้นพบเศษหินอุกกาบาตที่ก้นแม่น้ำวาล ใกล้ ๆ กับบริเวณวเรเดฟอร์ตโดมนั่นเอง และเมื่อสำรวจภาพถ่ายจากดาวเทียมแล้วก็ต้องตะลึง เมื่อพบว่าหลุมอุกกาบาตแห่งนี้กินพื้นที่ถึง 300 กิโลเมตร

ภาพจาก Earth Impact Database 


             ด้วยหลักฐานทางธรณีวิทยาทั้งหมดนี้ ทำให้นักธรณีวิทยาฟันธงว่า หลุมอุกกาบาตวเรเดฟอร์ต เป็นหลุมอุกกาบาตที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างไร้ข้อกังขา

ภาพจาก Earth Impact Database 


http://hilight.kapook.com/view/126825

No comments:

Post a Comment