Wednesday, December 7, 2016

ชีวิตพลิกผัน คุณตาถูกโพสต์เหยียดหลังยืนมองตู้เพชร ก่อนได้รับน้ำใจที่ทำให้ซึ้งมาก




       คุณตาพนักงานทำความสะอาด โดนดูถูกเหยียดหยามเพราะยืนมองตู้เพชร เมื่อชาวเน็ตรับรู้ เขาได้รับสิ่งตอบแทนที่คิดไม่ถึง

       คนงานทำความสะอาด ถูกแอบถ่ายรูปขณะยืนมองตู้โชว์ร้านขายเครื่องประดับ แถมถูกนำไปโพสต์เหยียด เมื่อชาวเน็ตทราบเรื่อง ต่างพากันช่วยเหลือและซื้อข้าวของไปให้คุณตากันยกใหญ่

  
          เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2559 เว็บไซต์เมโทร มีการเผยแพร่เรื่องราวของคุณตาวัย 65 ปีผู้หนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่เป็นพนักงานทำความสะอาด คุณตาถูกคนแอบถ่ายรูปขณะยืนมองตู้โชว์หน้าร้านขายเครื่องประดับหรูหรา นำไปโพสต์ลงโซเชียลพร้อมข้อความเหยียดหยามว่า "เขามองมันเหมือนตอนที่มองถังขยะสินะ" แต่หลังจากที่คุณตาถูกโพสต์เหยียดหยามได้ไม่นาน ก็มีคนมากมายที่ทราบเรื่องต่างพากันโกรธแค้นและได้ส่งของมาให้คุณตาเป็นจำนวนมาก

  
      โดย คุณตานัสเซอร์ อัล อิสลาม อับดุล คาริม เป็นชายชราชาวบังกลาเทศ ที่จากบ้านเกิดเมืองนอนมาทำงานเป็นคนทำความสะอาดอยู่ในประเทศซาอุดีอาระเบีย ในวันนั้นเขาแค่เดินผ่านร้านเครื่องประดับและหยุดดูเฉย ๆ เขาไม่ได้รับรู้เลยว่าถูกแอบถ่ายและเอาไปดูถูกเหยียดหยามในโลกโซเชียล

       เมื่อภาพของคุณตาถูกเผยแพร่ลงบนอินเทอร์เน็ต อับดุลลาห์ อัล กาห์ตานิ ชายหนุ่มผู้เป็นนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษย์ชนได้พบเห็นเข้า จึงได้แคปหน้าจอโพสต์ดังกล่าวมาแชร์ผ่านแอคเคาท์ทวิตเตอร์ของเขา ประกาศให้ผู้ติดตามเขาช่วยกันตามหาคุณตา

       โพสต์ของอับดุลลาห์ถูกแชร์ไปมากกว่า 65,000 ครั้ง ชาวเน็ตมากมายได้พากันช่วยสืบหาจนพบที่ตั้งของร้านขายเครื่องประดับดังกล่าว และตามหาตัวคุณตาจนเจอ เมื่อตามหาตัวคุณตานัสเซอร์พบ ผู้คนได้ต่างพากันส่งข้าวของไปให้เขา ทั้งข้าวสารอาหารแห้ง น้ำผึ้ง ไอโฟน กระทั่งสร้อยคอทองคำ คุณตาตกใจมากกับสิ่งของที่ได้รับและไม่ทราบมาก่อนเลยว่าเกิดอะไรขึ้น 

  
       "ผมแค่ทำหน้าที่ของผมในฐานะพนักงานทำความสะอาด และก็แค่ผ่านมาที่หน้าร้านทอง ผมดีใจมากเลยที่มีคนส่งของเยอะแยะมาให้ผม ผมขอบคุณมาก ๆ เลยจริง ๆ ครับ" คุณตานัสเซอร์ กล่าว

 
       ยังคงมีผู้คนมากมายอยากบริจาคเงินทองและข้าวของไปให้คุณตา โดยอับดุลลาห์ได้เป็นตัวกลางจัดการเรื่องนี้ เขากล่าวว่า รู้สึกยินดีอย่างมากที่มีผู้คนมากมายมีน้ำใจช่วยเหลือคุณตานัสเซอร์ ซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะคนซาอุฯ เท่านั้น ชาวต่างประเทศที่ทราบเรื่องก็พากันยื่นมือเข้าช่วย และเขายังกล่าวอีกว่า หวังว่าในอนาคตข้างหน้า ผู้คนจะสามารถร่วมมือกันทำเรื่องดี ๆ แบบนี้เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมุนษย์ด้วยกันได้อีกครั้ง

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก
edition.cnn.com
http://hilight.kapook.com/view/146146

No comments:

Post a Comment