Friday, November 25, 2016

แพทย์ช็อก หญิงปวดท้องหนักจนถูกหามส่ง รพ. ก่อนผ่าเจอถุงพลาสติกอัดในท้อง



        หญิงอินเดียสภาพอิดโรย ถูกหามส่งโรงพยาบาลเพราะปวดท้องหนัก ทีมแพทย์เร่งทำการผ่าตัด แต่ต้องตะลึง พบพลาสติกม้วนใหญ่ ขดเป็นก้อนในท้อง ยาวกว่า 2 เมตร !

        ทีมศัลยแพทย์ประจำโรงพยาบาลในรัฐหิมาจัลประเทศ ได้ทำการรักษาหญิงวัยกลางคนรายหนึ่ง ที่มีปัญหาในระบบทางเดินอาหารและมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง จากการรายงานของเว็บไซต์อ็อดดิซิตี้ เซ็นทรัล เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2559 ระบุว่า เมื่อได้ทำการผ่าตัดก็พบสาเหตุที่ทำให้หญิงรายนี้ป่วย ซึ่งสร้างความตกใจแก่ทีมแพทย์เป็นอย่างมาก เพราะมันคือเศษถุงพลาสติกจำนวนมากที่ขดเป็นก้อนใหญ่ในท้อง

        หญิงผู้ป่วยดังกล่าวมีนามว่า ธารา เทวี วัย 52 ปี อาศัยอยู่ในเขตเซอร์มัวร์ มณฑลหิมาจัลประเทศ ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ในวันเกิดเหตุธารามีอาการปวดท้องอย่างหนัก ชาวบ้านแถวนั้นได้ช่วยกันนำตัวเธอส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ทำการรักษา

        หลังจากทำการวินิจฉัยในเบื้องต้น แพทย์ได้ตรวจพบว่ามีก้อนขนาดใหญ่อยู่ภายในท้องของธารา คาดว่าน่าจะเป็นก้อนของเส้นผม จึงได้รีบทำการผ่าตัดเพื่อนำมันออก แต่ทว่าเมื่อทำการผ่าตัดเปิดหน้าท้องเข้าไปถึงกระเพาะของธารา ก็พบว่าก้อนขนาดใหญ่ที่ตรวจพบนั้นไม่ใช่เส้นผม แต่เป็นก้อนที่เกิดจากการจับตัวกันของเศษถุงพลาสติกจำนวนมาก ซึ่งเมื่อแพทย์นำมันออกมาแล้วนั้น สามารถวัดความยาวได้ประมาณ 7 ฟุตหรือราว 2 เมตร

        สำหรับธารา ตัวเธอนั้นหูไม่ได้ยิน พูดก็ไม่ได้ การสืบหาสาเหตุว่าทำไมเศษถุงพลาสติกถึงไปอยู่ในท้องของเธอจึงเป็นเรื่องยาก แต่ทั้งนี้ชาวบ้านที่ส่งตัวเธอมาโรงพยาบาล ได้กล่าวว่า ธารามีฐานะยากจนข้นแค้นมาก เธออาศัยอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีเพื่อนฝูง ไม่มีครอบครัวคอยดูแล ด้วยความอดอยากหิวโหย ธาราจึงเก็บเศษถุงพลาสติกมากินเพื่อประทังชีวิตและกินแบบนี้ติดต่อกันมาเป็นปี ๆ 

        จนกระทั่งเวลาผ่านไป ร่างกายของธาราทรุดโทรมลงมาก เธอไม่สามารถกินอะไรได้อีกต่อไป แขนขาของเธอเริ่มมีอาการบวม และตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ธาราก็อาการแย่ลงจนทำได้แค่เพียงดื่มน้ำเท่านั้น 

        อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดนำเศษพลาสติกออกมาในครั้งนี้ประสบความสำเร็จได้ด้วยดีและอาการของธาราก็เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ คาดว่าเธอน่าจะหายดีเป็นปกติได้ในเร็ววัน

ภาพจาก odditycentral.com 
http://hilight.kapook.com/view/145530

 

No comments:

Post a Comment