หญิงวัย 32 ปีชาวอังกฤษเร่งพบแพทย์เป็นการด่วน
หลังตาของเธอปูดบวมเท่าลูกกอล์ฟ
ปิดสนิทจนมองอะไรไม่เห็น ด้วยเหตุแค่ สั่งน้ำมูกแรงไป แพทย์เผย ถ้าไม่รีบรักษา
มีสิทธิ์ตาบอดแน่
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2558 เว็บไซต์มิเรอร์ เปิดเผยว่า หญิงสาววัย 32 ปี ชาวเมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ได้เข้าพบแพทย์แผนกฉุกเฉิน หลังดวงตาของเธอปูดบวมจนมีขนาดเท่าลูกกอล์ฟ และปิดสนิทจนมองไม่เห็นอะไรเลย ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รับการกระทบกระเทือนใด ๆ ที่ดวงตามาก่อนเลย มีเพียงแค่การสั่งน้ำมูก 1 ครั้งในช่วงเวลาราว 4 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น
แพทย์เปิดเผยว่า อาการที่หญิงสาวเป็นนั้นมีชื่อเรียกว่า ภาวะมีอากาศในเบ้าตา โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มความดันอากาศภายในโพรงจมูก ส่งผลให้กระดูกส่วนแผ่นด้านข้างของกระดูกเบ้าตาแตกออก และทำให้มีอาการตาโปนชั่วคราว
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2558 เว็บไซต์มิเรอร์ เปิดเผยว่า หญิงสาววัย 32 ปี ชาวเมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ได้เข้าพบแพทย์แผนกฉุกเฉิน หลังดวงตาของเธอปูดบวมจนมีขนาดเท่าลูกกอล์ฟ และปิดสนิทจนมองไม่เห็นอะไรเลย ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รับการกระทบกระเทือนใด ๆ ที่ดวงตามาก่อนเลย มีเพียงแค่การสั่งน้ำมูก 1 ครั้งในช่วงเวลาราว 4 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น
แพทย์เปิดเผยว่า อาการที่หญิงสาวเป็นนั้นมีชื่อเรียกว่า ภาวะมีอากาศในเบ้าตา โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มความดันอากาศภายในโพรงจมูก ส่งผลให้กระดูกส่วนแผ่นด้านข้างของกระดูกเบ้าตาแตกออก และทำให้มีอาการตาโปนชั่วคราว
ทั้งนี้ หากหญิงสาวไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี
อาจเสี่ยงต่ออาการตาบอดถาวรได้ เนื่องจากแรงกดอากาศได้ย้อนกลับเข้ามาที่ดวงตาจนได้รับบาดเจ็บ
อย่างไรก็ดี กรณีศึกษาของหญิงรายนี้ได้ถูกบันทึกไว้ในแฟ้มการรักษาเรียบร้อยแล้ว โดยแพทย์ให้ความสนใจกับอาการของเธอเป็นอย่างมาก เนื่องจากภาวะมีอากาศในเบ้าตานั้นมักเกิดจากอาการบาดเจ็บทางร่างกายมากกว่า แต่ในกรณีนี้เห็นได้ชัดว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้โดยการสั่งน้ำมูกแรง ๆ เช่นกัน
หญิงสาวได้รับการรักษาที่ถูกต้องเรียบร้อยแล้ว ด้านทีมแพทย์เสริมว่า โดยทั่วไปแล้วจะต้องใช้เวลารักษาอาการนี้ราว 2 สัปดาห์ขึ้นไปจึงจะหายดีเป็นปกติ
อย่างไรก็ดี กรณีศึกษาของหญิงรายนี้ได้ถูกบันทึกไว้ในแฟ้มการรักษาเรียบร้อยแล้ว โดยแพทย์ให้ความสนใจกับอาการของเธอเป็นอย่างมาก เนื่องจากภาวะมีอากาศในเบ้าตานั้นมักเกิดจากอาการบาดเจ็บทางร่างกายมากกว่า แต่ในกรณีนี้เห็นได้ชัดว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้โดยการสั่งน้ำมูกแรง ๆ เช่นกัน
หญิงสาวได้รับการรักษาที่ถูกต้องเรียบร้อยแล้ว ด้านทีมแพทย์เสริมว่า โดยทั่วไปแล้วจะต้องใช้เวลารักษาอาการนี้ราว 2 สัปดาห์ขึ้นไปจึงจะหายดีเป็นปกติ
ภาพจาก
BMJ Case Reports
http://hilight.kapook.com/view/128627
No comments:
Post a Comment