ชายอเมริกันหายสาบสูญเกือบ
10
ปี พบจมหนองน้ำลงไปพร้อมรถ ภาพรถยนต์จมน้ำโชว์หราบน Google
Maps
เว็บไซต์อินดิเพนเดนท์ เผยคดีชวนอึ้ง ชายชาวอเมริกันหายสาบสูญไปพร้อมกับรถ ยาวนานเกือบ 10 ปี แต่แล้วในที่สุดปริศนาก็ไขออก เมื่อ ชายคนหนึ่งที่ขึ้นไปตกแต่งต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ได้สังเกตเห็นรถคันหนึ่งจม อยู่ในหนองน้ำ จึงแจ้งตำรวจและสุดท้ายก็ได้พบว่านั่นคือรถของชายที่หายสาบสูญไปนั่นเอง แถม Google Maps ก็ยังโชว์หราภาพเงารถด้วย
เดวี่ ลี ไนล์ส วัย 72 ปี จากเมืองไบรอน ทาวน์ชิพ รัฐมิชิแกน ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งและโรคเครียด ได้หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2006 หลังจากที่ เดินออกมาจากการพบปะกับเพื่อนฝูงผับท้องถิ่น นับตั้งแต่นั้นก็ไม่เคยมีใครพบเห็นเขาอีกเลย จนกระทั่งเวลาผ่านพ้นไปนานแสนนานเกือบ 10 ปี
กระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไบร อัน เฮาส์แมน ได้ปีนขึ้นไปตกแต่งต้นคริสต์มาสที่อยู่ใกล้กับหนองน้ำแห่งหนึ่ง จู่ ๆ เขาก็ได้สังเกตพบว่าภายในหนองน้ำแห่งนี้มีรถยนต์คันหนึ่งจมอยู่ จึงแจ้งตำรวจทันที และไม่น่าเชื่อว่ารถยนต์ที่จมอยู่ในหนองน้ำแห่งนี้สามารถมองเห็นได้จาก Google Maps ด้วย
เว็บไซต์อินดิเพนเดนท์ เผยคดีชวนอึ้ง ชายชาวอเมริกันหายสาบสูญไปพร้อมกับรถ ยาวนานเกือบ 10 ปี แต่แล้วในที่สุดปริศนาก็ไขออก เมื่อ ชายคนหนึ่งที่ขึ้นไปตกแต่งต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ได้สังเกตเห็นรถคันหนึ่งจม อยู่ในหนองน้ำ จึงแจ้งตำรวจและสุดท้ายก็ได้พบว่านั่นคือรถของชายที่หายสาบสูญไปนั่นเอง แถม Google Maps ก็ยังโชว์หราภาพเงารถด้วย
เดวี่ ลี ไนล์ส วัย 72 ปี จากเมืองไบรอน ทาวน์ชิพ รัฐมิชิแกน ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งและโรคเครียด ได้หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2006 หลังจากที่ เดินออกมาจากการพบปะกับเพื่อนฝูงผับท้องถิ่น นับตั้งแต่นั้นก็ไม่เคยมีใครพบเห็นเขาอีกเลย จนกระทั่งเวลาผ่านพ้นไปนานแสนนานเกือบ 10 ปี
กระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไบร อัน เฮาส์แมน ได้ปีนขึ้นไปตกแต่งต้นคริสต์มาสที่อยู่ใกล้กับหนองน้ำแห่งหนึ่ง จู่ ๆ เขาก็ได้สังเกตพบว่าภายในหนองน้ำแห่งนี้มีรถยนต์คันหนึ่งจมอยู่ จึงแจ้งตำรวจทันที และไม่น่าเชื่อว่ารถยนต์ที่จมอยู่ในหนองน้ำแห่งนี้สามารถมองเห็นได้จาก Google Maps ด้วย
เมื่อทำการกู้ซากรถขึ้นมาก็พบโครง กระดูกของไนล์สอยู่ภายในรถ ใครจะเชื่อว่าเขาอยู่ห่างจากผับที่คนเห็นเขาเป็นครั้งสุดท้ายเพียงไม่ถึง
1 กิโลเมตร แต่ดันไม่มีใครเอะใจค้นหาเขาที่นี่เลย
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า หลังจากที่เขาหายไป ครอบครัวของเขาก็ออกตามหาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งยอมแพ้ไปเมื่อปี 2011 เพราะไม่รู้จะไปหาเขาที่ไหนได้แล้ว การพบศพของเขาครั้งนี้จึงเป็นการไขปริศนาของครอบครัวที่คาใจมายาวนานเลยทีเดียว
ภาพจาก Google Maps, News 8
http://hilight.kapook.com/view/129166
No comments:
Post a Comment