กู้ภัยเมืองจีนรับแจ้งเหตุพบศพในบ้านเช่า
ส่งกลิ่นเน่าตลบอบอวลเหม็นโฉ่ทั่วบริเวณ สุดหลอนจู่ ๆ ศพผุดนั่งขึ้นมาตัวตรง
สุดท้ายพบว่าที่แท้ยังไม่ตาย แค่เป็นชายผู้มีเท้าเหม็นราวซากศพ อี๋...
วันที่ 16 มีนาคม 2559 เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ เปิดเผยข่าวชวนสยองปนฮา จากเขตชิงผู่ ในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดยระบุว่า เช้าวันหนึ่ง ผู้เฒ่าแซ่หวัง ได้ตรวจเช็กความเรียบร้อยของบ้านเช่าและผู้เช่าตามปกติ และเขาก็เลือกที่จะไปทักทายกับผู้เช่ารายหนึ่งนามว่า เสี่ยวเหอ แต่เมื่อไปถึงบ้านกลับพบว่าบ้านไม่ได้ล็อก ภายในบ้านนั้นมืดสนิท ไม่มีแสงไฟ และมีกลิ่นเน่าเหม็นคล้ายซากศพลอยตลบอบอวล จึงลองเข้าไปตรวจสอบดู พบร่างแน่นิ่งไม่ไหวติงของ เสี่ยวเหอ กำลังนอนในสภาพมีน้ำลายฟูมปากอยู่บนเตียง เขาจึงตาลีตาเหลือกไปแจ้งตำรวจอย่างด่วนที่สุด เพราะคิดว่าเสี่ยวเหอตายแล้ว
จาก ปากคำของ เสี่ยวกง เจ้าหน้าที่กู้ภัยคนหนึ่งซึ่งมาถึงที่เกิดเหตุในเวลาต่อมา ระบุว่า เขาได้กลิ่นเหม็นเน่าชวนอ้วกลอยมาเตะจมูกทันทีที่เปิดประตูเข้าไปภายใน ก่อนจะพบศพชายหนุ่มนอนอยู่บนเตียง ตาปิดสนิท และผิวซีดเผือด แค่ดูด้วยตาก็คิดว่าน่าจะตายแล้วแน่นอน แต่ในฐานะกู้ภัย เขาต้องตรวจสอบให้แน่ใจจริง ๆ เสียก่อน
หน่วยกู้ภัยช่วยกันดึงผ้านวมออกจากร่างของเขา แต่จู่ ๆ ชายที่ถูกเข้าใจว่าตายสนิทไปแล้วกลับผุดลุกนั่งตัวตรงเด่ ตัวแข็งทื่อ ดวงตาเบิกโพลง และจ้องมองมาที่หน่วยกู้ภัย ทำเอาเจ้าหน้าที่หลายคนหลอนขนลุกขนพอง บางรายถึงกับลงไปนอนกลิ้งบนพื้นด้วยความกลัวก็มี
แต่ หลังจากได้ลองเช็กร่างกายของหนุ่มคนดังกล่าวแล้ว ก็ต้องตะลึงเมื่อพบว่าเขายังไม่ตาย ! เพียงแต่อยู่ในสภาวะสับสนเฉียบพลัน (State of Delirium) แถมยังมีอาการของโรคลมชัก ทำให้ตัวแข็งทื่อและน้ำลายฟูมปาก อย่างที่ผู้เฒ่าหวางได้เห็นเมื่อตอนเช้านั่นเอง
ส่วนกลิ่นเหม็นโฉ่ที่ตลบอบอวลห้องนั้น เป็นกลิ่นตัวและกลิ่นเท้าของชายหนุ่มคนดังกล่าว ที่รับสารภาพว่าไม่ได้อาบน้ำมานานเป็นเวลานานกว่าเดือนหนึ่งแล้ว เพราะว่าเขาเป็นลูกจ้างชั่วคราวและต้องการจะประหยัดสตางค์ให้มากที่สุด
วันที่ 16 มีนาคม 2559 เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ เปิดเผยข่าวชวนสยองปนฮา จากเขตชิงผู่ ในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดยระบุว่า เช้าวันหนึ่ง ผู้เฒ่าแซ่หวัง ได้ตรวจเช็กความเรียบร้อยของบ้านเช่าและผู้เช่าตามปกติ และเขาก็เลือกที่จะไปทักทายกับผู้เช่ารายหนึ่งนามว่า เสี่ยวเหอ แต่เมื่อไปถึงบ้านกลับพบว่าบ้านไม่ได้ล็อก ภายในบ้านนั้นมืดสนิท ไม่มีแสงไฟ และมีกลิ่นเน่าเหม็นคล้ายซากศพลอยตลบอบอวล จึงลองเข้าไปตรวจสอบดู พบร่างแน่นิ่งไม่ไหวติงของ เสี่ยวเหอ กำลังนอนในสภาพมีน้ำลายฟูมปากอยู่บนเตียง เขาจึงตาลีตาเหลือกไปแจ้งตำรวจอย่างด่วนที่สุด เพราะคิดว่าเสี่ยวเหอตายแล้ว
จาก ปากคำของ เสี่ยวกง เจ้าหน้าที่กู้ภัยคนหนึ่งซึ่งมาถึงที่เกิดเหตุในเวลาต่อมา ระบุว่า เขาได้กลิ่นเหม็นเน่าชวนอ้วกลอยมาเตะจมูกทันทีที่เปิดประตูเข้าไปภายใน ก่อนจะพบศพชายหนุ่มนอนอยู่บนเตียง ตาปิดสนิท และผิวซีดเผือด แค่ดูด้วยตาก็คิดว่าน่าจะตายแล้วแน่นอน แต่ในฐานะกู้ภัย เขาต้องตรวจสอบให้แน่ใจจริง ๆ เสียก่อน
หน่วยกู้ภัยช่วยกันดึงผ้านวมออกจากร่างของเขา แต่จู่ ๆ ชายที่ถูกเข้าใจว่าตายสนิทไปแล้วกลับผุดลุกนั่งตัวตรงเด่ ตัวแข็งทื่อ ดวงตาเบิกโพลง และจ้องมองมาที่หน่วยกู้ภัย ทำเอาเจ้าหน้าที่หลายคนหลอนขนลุกขนพอง บางรายถึงกับลงไปนอนกลิ้งบนพื้นด้วยความกลัวก็มี
แต่ หลังจากได้ลองเช็กร่างกายของหนุ่มคนดังกล่าวแล้ว ก็ต้องตะลึงเมื่อพบว่าเขายังไม่ตาย ! เพียงแต่อยู่ในสภาวะสับสนเฉียบพลัน (State of Delirium) แถมยังมีอาการของโรคลมชัก ทำให้ตัวแข็งทื่อและน้ำลายฟูมปาก อย่างที่ผู้เฒ่าหวางได้เห็นเมื่อตอนเช้านั่นเอง
ส่วนกลิ่นเหม็นโฉ่ที่ตลบอบอวลห้องนั้น เป็นกลิ่นตัวและกลิ่นเท้าของชายหนุ่มคนดังกล่าว ที่รับสารภาพว่าไม่ได้อาบน้ำมานานเป็นเวลานานกว่าเดือนหนึ่งแล้ว เพราะว่าเขาเป็นลูกจ้างชั่วคราวและต้องการจะประหยัดสตางค์ให้มากที่สุด
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
No comments:
Post a Comment