เด็กชายวัย
2
ขวบ ชาวมณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน ถูกรถยนต์ถอยชนอย่างจัง ก่อนจะถูกทับทั้งตัวด้วยล้อหลัง
แต่กลับรอดตาย ลุกขึ้นมาคลานหน้าตาเฉย
วันที่ 31 กรกฎาคม 2558 เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ เปิดเผยข่าวและคลิปชวนตะลึง ของเด็กชายเสี่ยวไห วัย 2 ขวบ ชาวมณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน ที่กำลังเดินเล่นอยู่บริเวณทางเข้า-ออกซอยแห่งหนึ่ง ในช่วงเวลาประมาณ 9 โมงเช้า ของวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา
หลังจากนั้นก็มีรถยนต์สีเทาคันหนึ่ง ขับถอยหลังออกจากซอยโดยไม่ทันระวังเด็กชาย และชนเข้ากับตัวเด็กอย่างจังจนล้มไปนอนกับพื้น ก่อนจะทับตัวเด็กชายด้วยล้อหลัง และขับรถออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทิ้งให้เสี่ยวไหนอนคว่ำหน้าบนพื้นถนน
วันที่ 31 กรกฎาคม 2558 เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ เปิดเผยข่าวและคลิปชวนตะลึง ของเด็กชายเสี่ยวไห วัย 2 ขวบ ชาวมณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน ที่กำลังเดินเล่นอยู่บริเวณทางเข้า-ออกซอยแห่งหนึ่ง ในช่วงเวลาประมาณ 9 โมงเช้า ของวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา
หลังจากนั้นก็มีรถยนต์สีเทาคันหนึ่ง ขับถอยหลังออกจากซอยโดยไม่ทันระวังเด็กชาย และชนเข้ากับตัวเด็กอย่างจังจนล้มไปนอนกับพื้น ก่อนจะทับตัวเด็กชายด้วยล้อหลัง และขับรถออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทิ้งให้เสี่ยวไหนอนคว่ำหน้าบนพื้นถนน
แต่แล้วเรื่องสุดตะลึงก็เกิดขึ้น เมื่อเด็กชายเสี่ยวไหใช้มือยันตัวลุกขึ้นมา
พยายามจะลุกขึ้นยืน แต่ทำได้เพียงยันตัวขึ้นนั่งเท่านั้น จากนั้นเจ้าของร้านที่อยู่ใกล้เคียงชื่อว่า
นายไหล เดินมาเห็นเสี่ยวไหและจำได้ว่าเขาเป็นลูกชายของเพื่อนบ้าน จึงรีบเข้าไปอุ้มเด็กชายและพาตัวไปส่งให้กับครอบครัวเพื่อเล่าเหตุการณ์ที่
เกิดขึ้นให้ฟัง
นายไหลมั่นใจว่าจำเลขทะเบียนรถได้ จึงจัดการโทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาที นายอู๋ เจ้าของรถคันดังกล่าวก็ย้อนกลับมาที่เกิดเหตุ นายไหลจึงเข้าไปพูดคุยกับเขาเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งนายอู๋เองก็บอกว่า ตนย้อนกลับมาเนื่องจากเพิ่งรู้ตัวว่าขับรถทับเด็ก
หลังจากนั้นนายอู๋จึงตามไปสมทบกับแม่ของเด็กชายเสี่ยวไหเพื่อดูอาการเด็ก ซึ่งผลการตรวจสแกนคลื่นสมองและเจาะเลือดปรากฏว่า เสี่ยวไหไม่มีอาการบาดเจ็บภายในที่เป็นอันตรายต่อชีวิตแต่อย่างใด มีเพียงแต่รอยขีดข่วนและบาดแผลภายนอกเท่านั้น
ทั้งนี้นายอู๋ กล่าวว่า เขาได้ติดตั้งเซ็นเซอร์และกล้องด้านหลังรถแล้ว แต่มันเพิ่งเสียเมื่อสองวันก่อนเกิดเหตุ และเขายินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายและยินดีรับผิดชอบทั้งหมด
นายไหลมั่นใจว่าจำเลขทะเบียนรถได้ จึงจัดการโทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาที นายอู๋ เจ้าของรถคันดังกล่าวก็ย้อนกลับมาที่เกิดเหตุ นายไหลจึงเข้าไปพูดคุยกับเขาเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งนายอู๋เองก็บอกว่า ตนย้อนกลับมาเนื่องจากเพิ่งรู้ตัวว่าขับรถทับเด็ก
หลังจากนั้นนายอู๋จึงตามไปสมทบกับแม่ของเด็กชายเสี่ยวไหเพื่อดูอาการเด็ก ซึ่งผลการตรวจสแกนคลื่นสมองและเจาะเลือดปรากฏว่า เสี่ยวไหไม่มีอาการบาดเจ็บภายในที่เป็นอันตรายต่อชีวิตแต่อย่างใด มีเพียงแต่รอยขีดข่วนและบาดแผลภายนอกเท่านั้น
ทั้งนี้นายอู๋ กล่าวว่า เขาได้ติดตั้งเซ็นเซอร์และกล้องด้านหลังรถแล้ว แต่มันเพิ่งเสียเมื่อสองวันก่อนเกิดเหตุ และเขายินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายและยินดีรับผิดชอบทั้งหมด
http://hilight.kapook.com/view/124169