อะมีบากินสมองโผล่อีก ฟลอริดาเตือนผู้คนระวังอันตราย เลี่ยงไม่ให้จมูกสัมผัสน้ำ หลังเจอคนติดเชื้อแล้ว ชี้เป็นเคสที่พบได้ยาก 9 ปี พบติดเชื้อแค่ 34 รายในหสรัฐฯ
วันที่ 6 กรกฎาคม 2563 เว็บไซต์ Insider รายงานว่า กรมอนามัยฟลอริดา ได้ออกประกาศเตือนผู้คนในพื้นที่ให้เลี่ยงการปล่อยให้จมูกสัมผัสกับน้ำประปาหรือน้ำจากแหล่งอื่น หลังพบมีผู้ติดเชื้ออะมีบากินสมอง ซึ่งหาพบได้ยาก ในเขตฮิลส์โบโรห์ เคานตี อย่างไรก็ตามไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม ของผู้ป่วยที่ติดเชื้อ รวมถึงแหล่งที่ได้รับเชื้อดังกล่าว
คำเตือนดังกล่าวได้รับการประกาศในวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยทางกรมอนามัยฟลอริดาย้ำเตือนผู้คน ไม่ควรลงไปว่ายน้ำหรือดำน้ำในทะเลสาบน้ำจืด แม่น้ำ และบ่อน้ำ ในช่วงเวลานี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังแนะนำให้ใช้คลิปหนีบจมูก หากจำเป็นต้องลงไปในแหล่งน้ำที่จืดที่มีอุณหภูมิอบอุ่น ในช่วงซัมเมอร์
สำหรับ เชื้ออะมีบาชนิดนีเกลอเรีย (Naegleria fowleri) ซึ่งเป็นเชื้ออะมีบากินสมองนี้ มักอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืดที่มีอุณหภูมิอุ่น ๆ และทำให้คนติดเชื้อได้เมื่อน้ำที่ปนเปื้อนไหลเข้าสู่จมูก โดยเมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายก็จะเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อที่สมอง สามารถทำให้ผู้ติดเชื้อเสียชีวิตได้ภายใน 1 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม เชื้อจะส่งผลกระทบต่อร่างกายต่อเมื่อน้ำที่ปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกายผ่านทางจมูกเท่านั้น การดื่มกินน้ำที่ปนเปื้อนไม่ทำให้ร่างกายได้รับผลกระทบ ขณะที่ผู้ติดเชื้อไม่สามารถแพร่เชื้อดังกล่าวสู่บุคคลอื่นได้
อนึ่ง การที่พบผู้ติดเชื้ออะมีบาชนิดนีเกลอเรีย นับว่าหาได้ยากยิ่งในสหรัฐฯ โดยระหว่างปี 2552-2561 มีรายงานเคสผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ เพียง 34 รายเท่านั้น โดยมี 30 รายได้รับเชื้อจากแหล่งน้ำ อีก 3 คนติดเชื้อจากการใช้น้ำประปาที่ปนเปื้อนมาล้างจมูก และอีก 1 คนได้รับเชื้อจากการเล่นสไลด์น้ำในสวน
อาการที่พบได้ในผู้ติดเชื้อ เช่น ปวดศีรษะ เป็นไข้ คลื่นไส้ วิงเวียน อาเจียน คอแข็งเกร็ง ชัก เสียสมดุล หรือประสาทหลอน ส่วนอัตราเสียชีวิตมีสูงถึง 97% โดยพบว่าในจำนวนผู้ติดเชื้อ 145 คน มีผู้รอดชีวิตเพียงแค่ 4 คนเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก Insider, bbc.com
https://hilight.kapook.com/view/204118